เบกกิ้งโซดา คือโซเดียมไบคาร์บอเนต เป็นผงสีขาวมีรสเค็มเล็กน้อย และมีฤทธิ์เป็นด่างอ่อนๆ บ้างก็เรียกว่าโซดาทำขนม เบกกิ้งโซดาไม่ใช่ผงฟู แต่เบคกิ้งโซดาเป็นส่วนประกอบอย่างหนึ่งที่มีอยู่ในผงฟู หลายคนอาจสับสนเข้าใจผิดคิดว่าเป็นตัวเดียวกัน

เบกกลิ้งโซดาสำหรับใช้ทำขนมอบต่างๆ เพราะเมื่อเบคกิ้งโซดาทำปฏิกิริยากับน้ำหรือกรดอ่อนๆ ที่มาจากส่วนผสมอื่นๆ ของอาหาร เช่น แป้งทำขนม ช็อกโกแลต น้ำตาล ซึ่งมีความเป็นกรดก็จะทำปฏิกิริยากัน ให้ฟองการ์ดคาร์บอนไดออกไซด์ขึ้นมาทำให้เนื้อขนมขยายขนาดหรือฟูขึ้นนั่นเอง

เบกกิ้งโซดามีวันหมดอายุไหม เช็คอย่างไร?

เบกกิ้งโซดาที่เปิดใช้แล้วจะมีอายุประมาณ 6 เดือน ในขณะที่เบกกิ้งโซดาที่ไม่เคยเปิดใช้งานเลยจะมีอายุประมาณ 2 ปี ซึ่งเป็นส่วนสำคัญในการทำขนมเช่นกันเพราะถ้าหากเบกกิ้งโซดาเก่าเกินประสิทธิภาพจะไม่ดีเวลาที่ใส่ลงไปในขนมเพราะทำให้ขนมอาจจะไม่ฟูไม่ขยายตัวเท่าที่ควร หรือไม่ก็ทำให้ขนมมีรสชาติแปลกๆ

วิธีเช็คคือ ให้ใส่น้ำส้มสายชูหรือน้ำมะนาว 2 ช้อนโต๊ะลงไปในถ้วยเล็กๆจากนั้นค่อยๆ โรยเบรคกิ้งโซดาประมาณ 1/4 ช้อนชา ถ้าเกิดฟองฟู่ แปลว่าเบกกิ้งโซดายังมีประสิทธิภาพแต่ถ้าไม่เกิดฟองหรือเกิดฟองน้อยมาก หมายถึงประสิทธิภาพของเบกกิ้งโซดาจะน้อยพอใส่เพิ่มลงไปในขนมขนมอาจจะไม่ขึ้นฟูเลยก็ได้

ข้อควรระวังในการใช้เบกกิ้งโซดา
ควรใส่เบกกิ้งโซดาแต่เพียงเล็กน้อยเท่านั้น เพื่อให้ผงชนิดนี้เข้าไปทำปฏิกิริยากับส่วนผสมอื่นๆ เพียงเท่านั้น หากใส่มากจนเกินไปจะทำให้มีรสชาติของสารเคมี ขนมดูไม่อร่อยหรือหากนำผงเบกกิ้งโซดาไปใช้ล้างสารเคมีในผักและผลไม้ก็ไม่ควรใช้เยอะจนเกินไป เพราะผมจะเข้าไปกัดผิวของผักและผลไม้และแทรกซึมลงไปในเนื้อเมื่อนำมาปรุงอาหารหรือรับประทานเปล่าก็จะมีรสชาติที่ไม่อร่อย

เบกกิ้งโซดามีประโยชน์ในด้านไหนอีกบ้าง

1. ช่วยทำให้ฟันขาวสะอาดแบบธรรมชาติ
โดยการแปรงฟันด้วยเบกกิ้งโซดาและน้ำเปล่าเล็กน้อยอาทิตย์ละ 2 ครั้ง วิธีนี้ทำให้เราไม่ต้องเสียเงินมากมายในการเคลือบฟัน

2. ขจัดคราบไหม้บนเตารีด
ใช้หน้าเตารีดที่พึ่งรีดเสร็จอุ่นๆ แนบกับผ้าขนหนูที่ชุบด้วยน้ำส้มสายชูประมาณ 5 นาที จากนั้นโรยหน้าเตารีดด้วยเบกกิ้งโซดาประมาณ 1 ช้อนโต๊ะใช้ผ้าขนหนูผืนเดียวกันค่อยๆขัดถูเบาๆจนสะอาด

3. แก้ปัญหาท่อน้ำอุดตัน
เริ่มจากเทน้ำร้อนลงไปก่อนตามด้วยเบกกิ้งโซดาประมาณ 1/2 ถ้วยตวงจากนั้นให้ผสมน้ำส้มสายชู 1 ถ้วยตวงกับน้ำร้อน 1 ถ้วยตวงตามลงไประหว่างนี้อาจจะมีฟองฟู่ออกมาฉะนั้นค่อยๆเทนะคะ จนฟองค่อยๆหายไปสุดท้ายเทน้ำร้อนราดลงไปอีกรอบ
4. ล้างคราบดำในยาแนว
แค่โรยเบกกิ้งโซดาบริเวณร่องยาแนวจากนั้นฉีดน้ำส้มสายชูทับอีกทีทิ้งไว้ประมาณ 5-10 นาทีเสร็จแล้วก็ใช้แปลงเล็กๆ หรือแปลงสีฟันขัดโดยไม่ต้องออกแรงเยอะเลยค่ะ แค่นี้ก็ประหยัดแรงในการล้างคราบดำในยาแนวได้แล้วค่ะ

5. ใช้ทำสครับขัดผิวหน้า
ด้วยความที่เนื้อของเบกกิ้งโซดาเป็นเกล็ดละเอียดมันจึงสามารถนำมาใช้เป็นสครับได้เช่นกัน ใช้เบกกิ้งโซดา 1 ช้อนชาผสมกับผลิตภัณฑ์ล้างหน้าที่คุณใช้แล้วนำมาขัดนวดใบหน้าเบาๆ หรือจะใช้เบกกิ้งโซดาผสมน้ำอุ่นในอัตราส่วน 1/3 แล้วผสมเข้ากับแป้งข้าวโอ๊ตเพื่อการทำความสะอาดและบำรุงผิวให้นุ่มไปพร้อมๆ กันก็ได้ค่ะ รับรองเลยว่าผิวจะใสสะอาดขึ้นเยอะเลยค่ะ

6. ช่วยมาร์คผิวสำหรับคนเป็นสิว
อีกเคล็ดลับที่น่าลองคือการใช้เบกกิ้งโซดารักษาผิวที่เป็นสิวโดยหลังจากการล้างหน้าสะอาดแล้วให้พอกหน้าทิ้งไว้ 5-10 นาที ด้วยส่วนผสมของน้ำอุ่นเล็กน้อยที่ค่อยๆ ผสมกับเบคกิ้งโซดาจนได้ส่วนผสมที่เริ่มข้น เมื่อครบตามเวลาแล้วล้างหน้าด้วยน้ำอุ่นจะช่วยให้รูขุมขนสะอาดและรู้สึกเบาสบายผิวหน้าขึ้นค่ะ

7. กำจัดกลิ่นในเครื่องดูดฝุ่น
นำเบกกิ้งโซดาผสมกับน้ำเปล่าให้ได้เนื้อสครับเข้มข้น แล้วพักไว้จากนั้นถอดเครื่องชิ้นส่วนกรองฝุ่นข้างในออกมา ใช้เบกกิ้งโซดาขัดถูทำความสะอาด เบกกิ้งโซดาจะเข้าซอกซอนขจัดเศษขยะตกค้างตามซอกมุมต่างๆ จากนั้นนำถุงกองมาทำความสะอาดแล้วตากให้แห้งก่อนนำไปใช้ซ้ำ

8. ซักผ้าขาวให้ขาวเหมือนใหม่
ให้นำผ้าขาวไปแช่ในน้ำอุ่น 4 ลิตร ที่ผสมเบกกิ้งโซดา 1 ถ้วยตวง นาน 8 ชั่วโมงหลังจากนั้นก็ซักทำความสะอาดปกติ แต่ถ้าคราบยังไม่หายไปหรือมีคราบหนักที่กำจัดยาก แนะนำให้ใช้เบกกิ้งโซดาซักผ้าอีกครั้งตามขั้นตอนเดิม